ขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2
ขั้นที่ 3
ขั้นที่ 4
ขั้นที่ 5
ขั้นที่ 6
ขั้นที่ 7
ขั้นที่ 8
ขั้นที่ 9
เช่นเดียวกับกีฬาทุกๆชนิด มวยไทยก็ต้องมีการอบอุ่นร่างกายและเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มทำการฝึกฝนหรือต่อสู้ในทุกๆครั้ง โดยเฉพาะกับมวยไทย การเตรียมร่างกายในขั้นแรกให้พร้อมนั้นจะช่วยให้นักมวยอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด เพื่อป้องกันความบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการฝึกหรือระหว่างการต่อสู้ เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่ใช้ร่างกายทุกๆส่วน เพราะฉนั้นร่างกายจะต้องพร้อมที่จะตอบสนองท่วงท่าต่างๆของคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วและเฉียบขาด พื้นฐานแรกของนักเรียนที่สนใจฝึกฝนมวยไทยที่สำคัญที่สุดคือการวอร์มร่างกาย ให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วในการต่อสู้และฝึกฝน และที่สำคัญการไหว้ครูนั้นเป็นเอกลักษณ์ของมวยไทยเพื่อระลึกถึงผู้มีพระคุณ และยังช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และเพิ่มกำลังใจ
more..
การใช้หมัดในมวยไทยมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการชกนำ ชกตาม และอื่นๆอีกมากมายซึ่งการชกแต่ละชนิดก็มีหลักการใช้สำหรับสถานการณ์ต่างๆกัน การใช้หมัดชกแต่ละท่านั้นสามารถเป็นอันตรายได้ผู้เรียนควรฝึกฝนให้มั่นใจก่อนนำไปใช้จริง ท่าชกแต่ละท่าในขั้นนี้มีการอธิบายพร้อมภาพแอนนิเมชั่นประกอบอย่างชัดเจนง่ายแก่การฝึกฝนและเข้าใจ
more..
การใช้อวัยวะส่วนเท้าในมวยไทยทำได้ทั้งเตะและถีบ ซึ่งทั้งสองท่านี้ใช้การได้ดีทั้งในสถานะการรุกและรับเนื่องจากว่าเป็นอาวุธที่มีช่วงยาวสำหรับการรุกหน้าและการตั้งรับอย่างรวดเร็ว การถีบต่างๆเช่นถีบตรง ถีบเหน็บ ถีบจิก ฯลฯ
ส่วนการเตะนั้นมีหลายท่าเช่นเตะตรง เตะเฉียง กระโดดเตะ ฯลฯ ขั้นที่ 3 นี้จะมีทั้งหมด 25 ท่าให้นักเรียนได้ฝึกฝนตามแอนนิเมชั่นและคำอธิบายอย่างง่ายดายและชัดเจน
more..
การใช้เข่าและศอกเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นมวยไทยอย่างชัดเจนที่ไม่มีศิลปะป้องกันตัวชนิดใดที่เหมือน การใช้ศอกและเข่าในมวยไทยนั้นเรียนรู้ได้ไม่ยากแต่การนำมาใช้จริงนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้การฝึกฝนค่อนข้างมาก สำหรับู้ที่เชี่ยวชาญแล้ว ศอกและเข่าสามารถใช้เป็นอาวุธที่สำคัยในการต่อสู้ระยะประชิด ในหลักสูตร iMAES มีท่าเข้าที่ต้องฝึกฝนทั้งหมด 18 ท่า แบ่งเป็นสองประเภทคือการใช้เข่าอย่างเดียว หรือการใช้เข่าและแขนร่วมกัน การฝึกฝนการใช้เข่าควรต้องฝึกเป็นคู่และนักเรียนควรฝึกทฤษฎีจนคล่องก่อนที่จะนำไปปฏิบัติจริง ท่าเข่าทุกท่ามีการอธิบายพร้อมภาพแอนนิเมชั่นประกอบอย่างชัดเจนง่ายแก่การฝึกฝนและเข้าใจ
more..
อวัยวะระหว่างแขนส่วนบนและล่าง หรือข้อศอกนี้ เป็นอาวุธที่มีพลังอยากมากสำหรับมวยไทย ข้อศอกเป็นส่วนที่แข็งและแหลม สามารถสร้างความเจ็บปวด บาดเจ็บ หรือน็อกคู่ต่อสู้ได้หากถูกนำมาใช้อย่างถูกวิธี ตรงเป้าหมาย และถูกสถานการณ์ การใช้ศอกมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการตัด การงัด เป็นต้น ผู้เรียนควรฝึกซ้อมท่าทางให้คล่องแคล่วด้วยตนเองก่อนนำไปฝึกซ้อมเป็นคู่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ท่าศอกทุกท่ามีการอธิบายพร้อมภาพแอนนิเมชั่นประกอบอย่างชัดเจนง่ายแก่การฝึกฝนและเข้าใจ
more..
ในแต่ละขั้นของมวยไทยที่ผ่านมามีการอธิบายการใช้ส่วนต่างๆของร่างกายสำหรับการต่อสู้ในมวยไทย สิ่งที่ตรงข้ามกับการรุกสู้ก็คือการตั้งรับและป้องกันตัวซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับศิลปะมวยไทยเพราะการรุกสู้มาจากการตั้งรับหรือการป้องกันที่ดีจนสามารถมองเห็นช่องโหว่ให้เป็นฝ่ายรุกและสามารถทำได้อย่างแม่นยำ ชัดเจน และเฉียบขาด ในขั้นนี้จะมีการฝึกสอนการตั้งรับและป้องกันตัวทั้งหมด 6 แบบ ทั้งตั้งรับด้วยหมัด ศอก เข่า เท้า ซึ่งจะมีการอธิบายอย่างละเอียด สามารภถนำมาใช้ในการเข้าแทรกการรุกของคู่ต่อสู้ การถอยสั้น ถอยยาว การแบ่งรับน้ำหนักจากการรุก การใช้ร่างกายส่วนต่างๆในการป้องกันตัว และอื่นๆ การป้องกันตัวทุกท่ามีการอธิบายพร้อมภาพแอนนิเมชั่นประกอบอย่างชัดเจนง่ายแก่การฝึกฝนและเข้าใจ
more..
 ศิลปะมวยไทย เป็นศิลปะการป้องกันตัวที่เกิดขึ้นมาช้านานด้วยหลักการต่อสู้ที่สำคัญคือ
- 1. การต้านหมัด
- 2. การต้านศอก
- 3. การต้านเข่า
- 4. การต้านเตะ
- 5. การโจมตี
เทคนิคการต่อสู้เหล่านี้ ผู้ที่ฝึกฝนมวยไทยจะต้องเข้าใจถึงเป้าหมายของแต่ละเทคนิค เพื่อจะเรียนรู้ถึงวิธีต้าน เทคนิคการใช้งานท่านต้านหรือท่าป้องกันเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณและความรวดเร็วของผู้ฝึกแต่ละคน ท่าเหล่านี้เช่นการตั้งการ์ด การหลบ การกระโดด การศอก การผลัก ฯลฯ เมื่อผู้ฝึกสามารถปฏิบัติได้อย่างเชี่ยวชาญก็สามารถนำไปใช้ในการป้องกันตัวในสังเวียนได้
more..
แม่ไม้มวยไทยเป็นการผสมผสานการใช้หมัด เท้า เข่า และศอกในการป้องกันและโจมตี การที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในแม่ไม้มวยไทยนั้นต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอสำหรับท่าต่างๆในการตั้งรับและโจมตี เมื่อครั้งที่ท่าทางต่างๆเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้น ท่าต่างๆนี้ได้รับการแยกกลุ่มอย่างชัดเจนและตั้งชื่อให้จำง่ายและคล้องจองกัน โดยแท้จริงแล้วมวยไทยเป็นการต่อสู้ที่ใช้เพียงมือเปล่าหรือมีเพียงผ้าพัน จึงทำให้ง่ายต่อกันบิดหรือหักตัวคู่ต่อสู้ เทคนิคนั้นสำคัญกว่าแรง นับจากทุกๆเทคนิคท่วงท่าของมวยไทยที่มีนับร้อยนั้น มีเพียง 15 ท่าที่นับว่าเป็นแม่ไม้มวยไทยที่สำคัญ
more..
การไหว้ครูในมวยไทยที่มีมาตั้งแต่เริ่มต้นนั้นมีความสำคัญต่อศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้มาก การไหว้ครูจะทำให้นักมวยเสมือนได้รับพรจากครูและสิ่งที่นับถือเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการต่อสู้ การไหว้ครูไม่เพียงแต่จะช่วยให้นักมวยได้ศึกษาท่วงท่าของคู่ต่อสู้ แต่ช่วยให้จิตใจสงบและร่างกายพร้อมสำหรับการต่อสู้ด้วย
more..
หลักสูตรมวยไทย
WMC – IFMA- iGLA
1. คำนำ
หลักสูตรมวยไทย ไอกล้า คือการศึกษามวยไทยโดยที่ครูผู้สอนใช้หลักสูตรการสอนรวมไปถึงการใช้ภาพแอนนิเมชั่นจากหลักสูตรมวยไทย ไอกล้าเพื่อการสอน ดังนั้นผู้ที่จะเป็นครูฝึกสอนจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับหลักสูตรให้ละเอียดและเข้าใจว่าจะสามารถนำหลักสูตรนี้ไปทำการฝึกสอนอย่างไร ในหลักสูตรนี้นักเรียนจะสามารถศึกษาท่วงท่าที่ถูกต้องตามตำรามวยไทยในภาพแอนนิเมชั่นแบบ 360 องศาและชมได้ซ้ำๆจนกว่าจะเข้าใจก่อนนำไปฝึกฝนจริง นอกจากนี้ครูผู้ฝึกสอนจะต้องเน้นย้ำเรื่องข้อดี ข้อเสีย และวิธีการนำไปใช้ของแต่ละท่าให้นักเรียนเข้าใจ
สำหรับการสอนในแต่ละระดับผู้ฝึกสอนจะต้องสามารถนำนักเรียนให้อบอุ่นร่างกายตามแบบฉบับของมวยไทย และสามารถนำนักเรียนให้ทำกิจกรรมต่างๆ จากที่ได้เรียนรู้ในชั้นเรียนออกไปใช้ได้ และที่สำคัญที่สุดคือต้องสามารถให้คะแนนนักเรียนในการผ่านเลื่อนขั้นได้
ระดับการเรียนในหลักสูตรมีทั้งหมด 3 ระดับ
– ระดับเริ่มต้นทั้งหมด 6 ขั้น
– ระดับกลางทั้งหมด 1 ขั้น
– ระดับสูงทั้งหมด 2 ขั้น
การสอนนักเรียนในเรื่องของการไหว้ครูในมวยไทยนั้นก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญสำหรับหลักสูตรมวยไทย เพราะการไหว้ครูนั้นเป็นเอกลักษณ์ที่พิเศษเฉพาะของมวยไทย เป็นการสานต่อวัฒนธรรมการเคารพครู ผู้ใหญ่ พ่อแม่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อและขนบธรรมเนียมไทยที่มีมานาน
2. ระยะเวลาในการเรียนแต่ละขั้น
ขั้น |
เนื้อหาสำคัญ |
จำนวนของท่า |
ระยะเวลาการเรียน ( 2 ชั่วโมง/ชั้นเรียน ) |
1 |
– ตั้งการ์ด |
|
12 |
|
– การเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ |
|
|
– ไหว้ครู ขั้นเริ่มต้น |
8 |
2 |
– การใช้หมัด |
8 |
12 |
|
– หมัดป้องกัน |
5 |
3 |
– การเตะ |
|
16 |
|
– การถีบ |
9 |
|
– เตะ |
9 |
|
– การป้องกันด้วยการเตะ |
5 |
4 |
– เข่า |
14 |
12 |
|
– การป้องกันด้วยเข่า |
4 |
5 |
– ศอก |
12 |
12 |
|
– การป้องกันด้วยศอก |
4 |
6 |
– การป้องกันตัวขั้นเริ่มต้น |
25 |
16 |
7 |
– เทคนิคการใช้หมัด |
7 |
24 |
|
– เทคนิคการเตะ |
7 |
|
– เทคนิคการใช้เข่า |
7 |
|
– เทคนิคการใช้ศอก |
7 |
8 |
– กลยุทธ์การใช้หมัด |
10 |
24 |
|
– กลยุทธ์การเตะ |
6 |
|
– กลยุทธ์การใช้เข่า |
3 |
|
– กลยุทธ์การใช้ศอก |
4 |
9 |
– ศิลปะการไหว้ครูขั้นสูง |
18 |
16 |
ทั้งหมด |
172 |
144 |
3. ขั้นตอนการสอนมวยไทยโดยการใช้หลักสูตรไอกล้าภายใน 1 ชั้นเรียน (2 ชั่วโมง)
1. การเตรียมตัว (20 นาที):
ในขั้นตอนการเตรียมตัวผู้สอนจะต้องนำนักเรียนเข้าสู่การเรียนด้วยความพร้อมทั้งกายและใจ การพูดให้กำลังใจ การตรวจสอบเครื่องแต่งกายและพานักเรียนอบอุ่นรางกายตามแบบฉบับของมวยไทย
2. การสอน (20 นาที):
ในขั้นตอนการสอนผู้สอนจะเปิดภาพแอนนิเมชั่นของท่าที่จะสอนในชั้นเรียนนั้นให้นักเรียนชม พร้อมการอธิบายท่าทาง ความเป็นมา จุดเด่นของท่า ข้อดีข้อเสีย เทคนิคการนำท่ามาใช้กับสถานการณ์ต่างๆ และแสดงท่าให้กับนักเรียนได้ชมจริงเป้นตัวอย่างก่อนฝึก
3. การฝึก (40 นาที):
นักเรียนจะมีเวลา 40 นาทีในการฝึกท่ามวยไทยของชั้นเรียนนั้นโดยครูผู้ฝึกจะต้องดูแลกำกับอย่างใกล้ชิดให้นักเรียนทำท่าที่ถูกต้องและแนะนำวิธีการฝึกฝนเพิ่มเติมให้ดีขึ้นสำหรับนักเรียนแต่ละคน
4. การใช้ (30 นาที)
ในขั้นนี้ผู้ฝึกสอนสามารถให้นักเรียนทำกิจกรรมตามที่ผู้ฝึกสอนเห็นสมควรไม่ว่าจะเป็นการจับคู่ การแสดงท่าแบบเดี่ยว หรืออื่นๆเพื่อให้นักเรียนสามารถแสดงให้เห็นว่าได้เรียนรู้ท่านี้อย่างถ่องแท้แล้วโดยครูผู้ฝึกสอนคอยให้คะแนนและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดระหว่างฝึกซ้อม
5. การให้คะแนน (10 นาที)
ในการสรุปการเรียนของชั้นเรียนนั้นๆ ผู้ฝึกสอนจะต้องสรุปโดยรวมให้นักเรียนได้ทราบในสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนั้น รวมไปถึงข้อผืดพลาดโดยรวม การแก้ไข และแนะนำการฝึกฝนเพิ่มให้นักเรียน การให้คะแนนสามารถทำได้โดยการสังเกตและพูดคุย
4. การประเมิณนักเรียน
การประเมิณนั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.ประเมิณด้านความรู้และความเข้าใจโดยนักเรียนจะต้องสามารถอธิบายว่า:
– ในแต่ละขั้นนั้นมีท่าอะไรบ้าง
– สามารถอธิบายประโยชน์ของทุกท่าในแต่ละขั้นได้
– สามารถอธิบายได้ว่าแต่ละท่าในแต่ละขั้นนั้นสามารถใช้และไม่สามารถใช้ได้ในสถานการณ์ใดบ้าง
2. การประเมิณด้านความคิดและความรู้สึกของนักเรียนต่อกีฬาที่นักเรียนกำลังศึกษา การประเมิณด้านความสนใจและเอาใจใส่ในการฝึกฝนและความเข้าใจในการรู้แพ้ รู้ชนะของกีฬา โดยสิ่งเหล่านี้สามารถประเมิณได้จาก
– การมาเข้าชั้นเรียนอย่างสม่ำเสมอ
– ปฏิบัติตามกฎกฏิกาต่างๆของมวยไทยอย่างเคร่งครัด
– การให้ความเคารพต่อครูผู้ฝึกสอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียน
3. การประเมิณความสามารถโดยการประเมิณท่วงท่าของนักเรียนให้มีความถูกต้อง เฉียบขาดและมีพลัง
– ท่วงท่าที่ถูกต้อง
– ความมีพลัง ว่องไว
– การเคลื่อนไหวที่สมดุลย์
5. แบบฟอร์มการประเมิน
การประเมิณความรู้ (100) |
อธิบายท่าทั้งหมด (40) |
อธิบายประโยชน์ของท่า (40) |
อธิบายประโยชน์ของท่า (20) |
การประเมิณอุปนิสัย (100) |
ความเอาใจใส่การเรียน (60) |
การปฏิบัติตามกฏ (20) |
การเคารพผู้อื่น(20) |
การประเมิณความสามารถ(100) |
ท่วงท่าที่ถูกต้อง (50) |
ความสมดุลย์ของการเคลื่อนไหว (20) |
ความคล่องแคล่ว (30) |
6. วิธีการประเมิน
ครูผู้ฝึกสอนจะเป็นผู้ทำการประเมิณและให้คะแนนโดยการสังเกต การพูดคุยและการให้นักเรียนทำข้อสอบต่างๆและในที่สุดนำผลคะแนนมารวมกันเพื่อหาค่าเฉลี่ยของการประเมิณในแต่ละหัวข้อ
7. การตัดสิน
นักเรียนที่จะได้รับการตัดสินให้ผ่านเลื่อนขั้นจะต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 80%
8. ผู้ประเมิน
ผู้ที่จะทำการประเมิณสำหรับหลักสูตรมวยไทยไอกล้าจะต้องเป็นผู้ฝึกสอนมวยไทยที่มีคุณวุฒิซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก WMC-IFMA หรือจากองค์กรกีฬามวยที่ได้รับการรับรองจาก WMC-IFMA และมีวุฒิบัตรดังต่อไปนี้
1. วุฒิบัตรครู
2. วุฒิบัตรผู้ช่วยครูใหญ่
3. วุฒิบัตรครูใหญ่
สำหรับวุฒิบัตรครูเชี่ยวชาญและบรมครูซึ่งเป็นฐานะที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น 2ชนิดนี้จะสามารถประเมิณนักเรียนได้ในทุกๆระดับขั้น
ครูผู้ประเมิณจะต้องแจ้งนักเรียนถึงระดับขั้นที่นักเรียนได้ไปถึงพร้อมจัดการให้ทางสโมสรหรือยิมต้นสังกัดเรื่องการทำการขอประกาศนียบัตร พร้อมประเจียดและมงคลในสีต่างๆตามระดับขั้นของนักเรียน
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับนักเรียนมวยไทยคือการได้เข้าร่วมพิธีไหว้ครูพร้อมกันในวันมวยไทยโลกซึ่งมีการจัดขึ้นทุกๆปีที่ประเทศไทย นักเรียนมวยไทยควรจะต้องมีชุดมวย พร้อมประเจียดและมงคลเป็นของตัวเอง
 มวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวที่มีทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัว ในบรรพกาล คนรุ่นก่อนได้ใช้มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของเรา มีการฝึกฝนแพร่หลายทั้งกับชาวบ้าน ทหาร เจ้านายชั้นสูง นอกเหนือจากการฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่งของร่างกาย เป็นศิลปะของชาติที่ได้รับการสืบทอดมาจนปัจจุบัน สำหรับผู้ที่ฝึกฝนมวยไทยผ่านโปรแกรม iMAES จะได้รับการทดสอบ เลื่อนขั้น พร้อมประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับรองจากสมาคมมวยไทยโลกและสหพันธ์มวยไทยระดับประเทศ ประกาศนียบัตรนี้จะเป็นเครื่องหมายแสดงความสามารถของนักเรียนและเพิ่มกำลังใจในการฝึกฝนเพื่อเลื่อนขั้นต่อๆไป
|